top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนCS Team

วิกฤตเศรษฐกิจแบบนี้ ..รับมือยังไงกันดี

อัปเดตเมื่อ 8 ก.พ. 2565


เราจะเอาตัวรอดอย่างไร ในสภาวะเศรษฐกิจหลังจากวิกฤต COVID-19



ต้องยอมรับว่า จากสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจปัจจุบัน ย่ำแย่ และดิ่งต่ำลงมากที่สุดเท่าที่เราเคยประสบมา และมีผลกระทบกับทุกสาขาอาชีพ ทั่วประเทศไทยเราและทั่วโลก


วิกฤตนี้ ทำให้เราดำเนินชีวิตได้อย่างยากลำบากไปทุกย่างก้าว ต้องระมัดระวังตัวตลอดเวลา ทั้งด้านสุขภาพกาย สุขภาพใจ การงาน ครอบครัว รวมถึงระมัดระวังด้านรายจ่ายไปด้วย ทุกอย่างจึงดูยุ่งเหลิงไปหมด กิจกรรมหลายๆอย่าง จำเป็นต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เช่น งานกิจกรรมต่างๆ การท่องเที่ยวพักผ่อน กิจกรรมที่ต้องมีค่าใช้จ่ายสูง ฯลฯ


มันกะทันหันเกินไปหรือเปล่า สำหรับผู้ที่เคยอยู่แบบสบายๆ มีการงานมั่นคง มีเงินใช้ไม่ขาดมือ ซึ่งสถานการณ์แบบนี้ มันก็ทำให้เราได้แง่คิดบางอย่างเช่นกัน เราประมาทในการใช้ชีวิตกันมากไปรึเปล่า เราทุ่มเทให้กับบางอย่างแต่เราลืมบางอย่างรึเปล่า ธรรมชาติคือการเปลี่ยนแปลง และสุดท้าย ทุกชีวิตก็ยังคงต้องต่อสู้และดิ้นรน เพื่อการมีชีวิตรอดต่อไป




ดังนั้น เราควรถือโอกาสนี้ เปลี่ยนแปลงตัวเองและองค์กร เพื่อความอยู่รอด จึงขอสรุปสิ่งที่น่าจะรับมือได้ ในสถานการณ์ปัจจุบันเมื่อเกิดวิกฤต

  1. เปลี่ยนความคิด (Mine Set) เสียใหม่ : คุณเชื่อแบบไหนโลกของคุณก็จะเป็นแบบนั้น คุณมีความเชื่อเกี่ยวกับตัวเองแบบไหนคุณก็จะเป็นแบบนั้น ความคิดและวิธีคิดของคุณมีผลต่อชะตาชีวิตของคุณอย่างมากมายมหาศาล ชีวิตคุณจะเดินไปทางไหนต่อขึ้นอยู่กับว่าคุณมองและตีความสิ่งต่าง ๆ อย่างไร คนที่มี Growth mindset จะเชื่อในการพัฒนาตัวเอง การเรียนรู้ การฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจะทำให้พวกเขากลายเป็นคนเก่งและมีความสามารถมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาเชื่อว่าความพยายาม การทำงานหนักคือพาหนะที่จะพาไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้นคุณจึงมักจะเห็นคนเหล่านี้ใช้เวลาไปกับการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ การพัฒนาตัวเอง เพื่อผลักดันให้ตัวเองก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขามองว่าแต่ละคนแตกต่างกัน เกิดมาพร้อมกับคุณสมบัติตั้งต้นไม่เหมือนกัน พวกเขาจึงมักเคารพในจุดแข็งที่แตกต่างกันของผู้คน และเชื่อว่าทุกคนสามารถพัฒนาตัวเองให้เก่งได้ รวมถึงการมีความเสียสละต่อส่วนรวมและมีความซื่อสัตย์สุจริตต่ออาชีพของตน สิ่งเหล่านี้จะหล่อหลอมให้คุณมีพลังบวก ดึงสิ่งดีๆเข้ามาสู่ชีวิต

  2. มองว่างานยากและปัญหาคือโอกาส : งานยากจะดึงศักยภาพของคุณออกมา โดยธรรมชาติคนเรามักจะมีความกลัวล้มเหลวเมื่อต้องรับโอกาสท้าทายใหม่ ๆ ที่คุณยังไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่ แต่หากคุณเอาแต่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยและงานง่ายของตัวเอง คุณจะไม่ได้พัฒนาและเติบโตไปไหน ดังนั้น ปัญหาและงานยากคือพาหนะที่จะพาคุณให้เก่งขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อคุณเก่งขึ้นเรื่อยๆ ความสามารถของคุณจะแสดงออกให้กับผู้คนและสังคมรับรู้ และหลังจากนั้น รายได้ของคุณ อาจเพิ่มขึ้นได้โดยธรรมชาติ คุณอาจคิดวิธีหาเงินได้อย่างไม่น่าเชื่อ

  3. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นขององค์กร : เป็นส่วนสำคัญที่สุด ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมขององค์กร แต่คุณจำเป็นต้องนำข้อนี้มาคำนวณเป็นอันดับแรก ค่าใช้จ่ายบางอย่างอาจจะดูเหมือนว่าเป็นค่าใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆ แต่ถ้าเราประหยัดเล็กน้อยทุกวันเรื่อยๆ เราก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ส่วนนี้มาไว้เป็นกอบเป็นกำได้เลย เช่น ค่าเอกสาร กระดาษ อาจใช้วิธีปรับเปลี่ยนจากการใช้กระดาษเป็นการใช้สื่ออิเล็คทรอนิคส์แทน แถมยังเป็นการลดโลกร้อนไปในตัว

  4. การลดกำลังคนและดึงเครื่องมือเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยในการดำเนินงาน : ปัจจุบัน มีเครื่องมือและเทคโนโลยีดิจิตอล ที่ทันสมัยมากมายในการใช้แทนแรงงานมนุษย์ แต่สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากกว่า ไม่อู้ ไม่ขี้เกียจ ไม่บ่น ไม่มีขาดลามาสาย ไม่ต้องไล่ออก ไม่ต้องเหนื่อยใจ ยิงปืนครั้งเดียวได้นกหลายตัว เพราะคุณจะประหยัดทั้งเงินและเวลาการทำงาน ในระยะยาว รวมถึงไม่มีความเสี่ยงต่อความขัดแย้งระหว่างเพื่อนร่วมงาน เครื่องมือและเทคโนโยลีเหล่านี้ สามารถช่วยเหลือคุณได้ อาทิเช่น เครื่องมือ-เครื่องจักร ซอฟท์แวร์ที่ใช้ในการทำงาน ใช้ระบบเป็นตัวประมวลผลเพื่อความแม่นยำ แต่ใช้กำลังคนเพียงน้อยนิด

  5. ปรับการจัดส่งสินค้าและบริการลูกค้าในทุกขั้นตอน : ทำให้งานต่างๆจัดการได้อย่างง่ายดายมากขึ้น ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้ผ่านทางช่องทางออนไลน์ Social และปรับกลยุทธ์การตลาดให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยในการบริหารจัดการ

  6. จัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management) : มี Vender ใน Supply Chain มากกว่า 1 ราย ลดการผูกขาด มีความหลากหลาย ทั้งในพื้นที่และต่างพื้นที่ เพื่อกระจายผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต


จากนี้ไป เราต้องเริ่มคิดต่อแล้วว่า เราจะทำอะไรต่อ ในโลกหลังวิกฤตที่ย่ำแย่นี้ เราต้องเปลี่ยนแปลงอย่างไร ลูกค้าจะได้อะไร และสังคมที่เราอยู่จะได้อะไรจากการที่เราเปลี่ยนแปลงนี้ เราต้องกะเทาะเปลือกเรื่องเหล่านี้ให้ชัด และไม่ใช่แค่การนั่งคิดเพียงอย่างเดียว แต่ต้องลงมือทำจริง ด้วยความรวดเร็ว เมื่อไม่ประสบความสำเร็จ ต้องรีบไหวตัวให้ทันเปลี่ยนวิธีลงมือทำใหม่ ซึ่งการทำแบบนี้ไม่เพียงทำให้ผู้ประกอบการรอด แต่ยังสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ รับ New Normal ทำให้เราอยู่รอดได้ยืนยาวด้วย


CS Team หวังว่า บทความนี้ จะให้ประโยชน์แก่ท่านโดยรวม และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันหรือองค์กรของท่าน ขอให้ทุกท่าน รอดพ้นจากวิกฤตนี้ไปได้ด้วยดี



หากท่านต้องการบริการจากเรา สามารถติดต่อสอบถามได้เบื้องต้นที่

Tel.089-206-0299 Email: sales@craftskill.co Line ID: @craftskill



ดู 55 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page